ผลประโยชน์ภายในวงยุค 1

ผลประโยชน์ภายในวงยุค 1
(จริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในวง แต่จำเป็นต้องลงไว้เพื่อประกอบการอธิบายกับข้อมูลเรื่องลิขสิทธิ์และการก่อตั้งวง)
ตอน 1 มุดใต้ดิน
-ดอนผีบิน เป็นวงดนตรี 3 พี่น้อง ที่มาจากบ้านนอก ไม่ค่อยรู้เรื่องลิขสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น รู้แต่ว่าเมื่อสร้างงานเพลงมาแล้ว ก็ต้องเอาไปขาย ขายแล้วก็ต้องได้เงินกลับมา หากมันพอจะเดินหน้าต่อไปได้ ก็จะลาออกจากงานในกรอบแบบเป็นลูกจ้าง office man กระโจนเข้าวงการดนตรีที่ไฝ่ฝันอยากทำ..
-ไม่ได้เซ็นสัญญาเข้าค่ายเพลงแต่แรก ซึ่งหากเข้าค่าย/บริษัทก็อาจจะมีการแจกแจงเรื่องลิขสิทธิ์ต่างๆที่จะได้รับจากการสร้างสรรค์ให้ทราบ อาจจะทำให้เกิดการจัดการผลประโยชน์ภายในวงเป็นสัดส่วนตามที่ใครได้ทำอะไรกับงานชิ้นนั้นๆแบบยุติธรรม
-แต่ดอนผีบิน เริ่มต้นมาแบบร่วมด้วยช่วยกัน ช่วยกันทำ ช่วยกันเข็นคนละไม้ละมือ เวลานั้นไม่มีใครมาคิดเล็กคิดน้อย จนเข็นครกขึ้นภูเขาไปได้ ไม่มีใครมาจ่ายเงินค่าเข็น มีแต่จะไปนั่งรอๆๆ เพื่อตามเงินจากการขายเทปแบบกระปริดกระปรอยจากคู่สัญญา แล้วเอามาใช้หนี้ที่ไปกู้ไปยืมมาลงทุนทำเอง

ปี 2536 อัลบั้ม 1 “โลกมืด” มีการสำรองเงินไปล่วงหน้าค่าห้องอัดเสียงตั้งแต่ที่เชียงใหม่และอีกหลายห้องที่ กทม. จน Mix เสียงเสร็จ นอกจากนั้นยังมีค่าเดินทาง ค่ากินอยู่ ค่างานพิมพิ์ปกเทป โปสเตอร์ สติ๊กเกอร์ ค่าถ่ายรูป ซื้อหน้าหนังสือเพื่อโฆษณา...รายได้มาจากการส่งปกเทปให้ Z Rock เป็นล๊อตๆ ได้รับเช็คตีล่วงหน้าไว้ กว่าจะได้เงินแต่ละล๊อต ก็เช็คเด้ง เลื่อน จนแตกหักขึ้นถึงโรงถึงศาล จนจบกับ Z Rock ไป เรียกได้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาจากค่าปกเทป หมดไปกับการนำไปใช้หนี้เก่าและค่าใช้จ่ายเดินทางไปมา ค่าอาหารเครื่องดื่มกลุ่ม ในช่วงเวลานั้น....(มีทำบัญชีกองกลาง)

ปี 2537 (มินิ)อัลบั้ม 2 “เส้นทางสายมรณะ ในขณะที่หนี้เก่ายังไม่หมด ก็เริ่มบันทึกเสียงชุดใหม่ ก็ไปเครดิตห้องอัดเสียงเค้าอีกรอบ จนบันทึกเสียงเสร็จก็มีหนี้ก้อนโตเป็นแสนรออยู่เพื่อเคลียร์ ต้องตีเช็คล่วงหน้าให้ห้องอัดไว้ คราวนี้คุยกับ Roxx Records ที่เดิมเพราะพัลวันกันอยู่ตั้งแต่ชุด 1  แต่เปลี่ยนผู้ผลิต-ขายเป็น Onpa ซึ่งมาตรฐานกว่า เมื่อเริ่มงานขายก็เกิดค่าใช้จ่ายเรื่องงานพิมพิ์ขึ้นทันทีทั้งปกเทป-ซีดี-โปสเตอร์ ซื้อสื่อหนังสือเพื่อโฆษณา...แล้วก็เริ่มส่งปกเทป-ซีดี เหมือนเดิมให้ Roxx Records ซึ่งจะส่งต่อให้ Onpa อีกที วงก็รับเป็นเช็คล่วงหน้า 3 เดือนมาเป็นประกันไว้ ครานี้ Roxx ต้องรอเงินเคลียร์จาก Onpa มาก่อนถึงจะนำมาจ่ายเช็คที่ให้วงไว้ได้ กว่าจะเคลียร์ล๊อตแรกได้ก็หลังวางเทปไป 3 เดือน (แต่เช็คที่ตีให้ห้องอัดไว้จะรอไม่ได้ ก็ต้องหาเงินมาเคลียร์เมื่อถึงดีล) ล๊อตแรกกับ Roxx ก็พอไปได้ แต่ล๊อตหลังนี่สิครับ ทั้ง 3 คนต้องไปนั่งรอๆๆ เพื่อตามเงิน ได้บ้างไม่ได้บ้าง เช็คก็เด้งแล้วเด้งอีก เลื่อนแล้วเลื่อนอีก เงินที่ได้มาแต่ละล็อตแบบกระปริดกระปอยก็นำไปใช้หนี้ที่ก่อขึ้นแบบชุดที่ 1 จนเวลาล่วงเลยเข้าสู่อัลบั้มต่อไป จึงเปลี่ยนวิธีใหม่ ไม่ผ่านคนกลาง จึงตั้งค่ายของตัวเองขึ้นเลย dpb music production....ทั้งสามกระโดดออกจากงานประจำ หลังจากที่เหยียบเรืองสองแคมมา 2 ชุด..

ปี 2538 อัลบั้ม 3 "อุบาทว์ อุบัติ" ได้ตั้ง หจก.ดีพีบี มิวสิคโปรดั๊กชั่น ขึ้นที่เชียงใหม่ เซ็นสัญญาตรงกับ BBM (ผู้ผลิต/จัดจำหน่าย) คราวนี้สามารถเบิก advance เงินก้อนล่วงหน้าจาก BBM ได้มาก่อน จึงไม่ต้องสำรองเงินไปเหมือน 2 ชุดแรก สามารถมีเงินหลักสามแสนอยู่ในมือ ที่จะไปเช่าห้องอัดเสียง ทำปกเทป-ซีดี-โปสเตอร์ สติ๊กเกอร์ ซื้อสื่อหนังสือเพื่อโฆษณาเหมือนเดิมได้เลย..ครั้งนี้จึงเหมือนเป็นธุรกิจขนาดย่อม เมื่อมีเงินอยู่ในมือก็เริ่มจ่ายในสิ่งที่จำเป็นและไม่จำเป็น ไม่ว่าจะกล้องถ่ายรูป รถยนต์ รวมถึงการสร้างห้องซ้อมขนาดใหญ่พร้อมบ้านพักที่น่าน (ศูนย์อนุรักษ์ที่สมบัติใช้อยู่) ในช่วงการขายช่วงแรกเงินที่เบิกมาค่อนข้างพอดีกับยอดที่ขายไป จึงไม่ได้รับเงินเพิ่มอีกในปีนั้น ช่วงปลายๆวงก็เริ่มเจอปัญหาเดิมๆอีกครั้งคือเงินหมด !...ไม่ได้มีการวางแผนให้ดี จนต้องกู้ยืม ส่งรถ สำรองเดินทาง...ขณะที่ "ธุรกิจ อุบาทว์ อุบัติ" กำลังจะไปไม่ได้ จนต้องปิด หจก. ก็มีอัศวินม้าขาวมาช่วย....
*สมบัติ เริ่มทำเสื้อยืด ป้ายผ้า กระเป๋า ติดต่อขายกับแฟนเพลงเองทางไปรษณีย์

ตอน 2 โผล่บนดิน
อัศวินม้าขาว....มาช่วย

ปี 2539 อัลบั้ม 4 "สองฟากฝั่ง" โชคเข้าข้าง ที่ได้เซ็นสัญญากับค่าย Warner Music รับเงินค่ามาสเตอร์มาเลยก้อนใหญ่ คิดว่าจบกันที่ก้อนเดียวเพราะส่วนแบ่งจากการขายเทป-ซีดี จะได้ตั้งแต่ระดับสามหมื่นชุดขึ้นไป งานชุดนี้คงไม่ได้ขายขนาดนั้น ทุกอย่างจึงแป๊กอยู่ที่เงินก้อนเดียว เงินก้อนนี้ทางวงก็นำไปใช้หนี้ก่อนหน้านี้ และนำไปเป็นทุนในการเช่าห้องบันทึกเสียงและนำไปซื้อระบบเสียงสำหรับห้องซ้อมชุดใหญ่(JBL-Crown-Mackie) ที่เหลือก็แบ่งๆกันไปเท่าที่จะเหลืออยู่ การจัดการเรื่องเงินภายในวงเริ่มเป็นปัญหา เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายกองกลางที่รอจ่ายอยู่ ไม่ว่าผ่อนรถ ค่าเดินทาง ค่ากินอยู่ส่วนตัวของแต่ละคน.. 

ปี 2540 "Return to the Nature"คอนเสริท์ ได้ค่าตัวมาคนละนิดละหน่อย งานนี้ได้บันทึกแสดงสดไว้ด้วยทั้งภาพและเสียง จึงก็มีการ Mix เสียงบันทึกแสดงสดก็เกิดขึ้น เพื่อนำไปลงม้วนวิดีโอและจะทำเทป-ซีดีออกขายด้วย จึงมีค่าใช่จ่ายค่าห้องอัดเสียงเพิ่มเข้ามาอีก.... 
*ในปลายปี 2540 สมบัติ ได้ประกาศครบรอบ 5 ปีของวง ติดต่อตรงกับแฟนเพลงทางไปรษณีย์ มีการผลิตซีดีและเทป บันทึกแสดงสด/รวมเพลงเร็ว/รวมเพลงช้า/งานรวมเดโมเก่าๆ รวมถึงบันทึกการสัมภาษณ์จากสถานีวิทยุ และสินค้าเสื้อยืด-กระเป๋า ออกจำหน่ายเองโดยที่ไม่ได้คุยกันเลย ติดต่อกับ BBM ผู้จัดจำหน่ายเอง รอยแยกเริ่มเกิดขึ้น....!

ปี 2541 อัลบั้ม 5 "สัญญาณเยือน" ก่อนหน้านั้นได้มีการซื้ออุปกรณ์บันทึกเสียงเพื่อเตรียมบันทึกเสียงเองที่บ้านเกิด จ.น่าน สมบัติทำเพลงคนเดียวและได้ให้ทุกคนไปบันทึกเสียงร่วมกัน ซึ่งหลังจากนั้นได้นำไปเซ็นกับค่ายเพลงเอง  ***งานนี้สมศักดิ์ไม่ได้รับรู้และไม่ได้ไปเซ็นสัญญาด้วย ทำให้เกิดเป็นปมแยกตั้งแต่นั้นมา งานชุดนี้ส่อเค้าแววแยกเพราะไม่มีลงรูปนักดนตรีในปก

ปี 2543 อัลบั้ม 6 "ปรากฏการณ์ ปรากฏกาย" เมื่อสมคิดติดต่อกับ Geraffe Records/ Grammy ได้ แต่ต้องเซ็นสัญญากันทั้ง 3 คน จึงเป็นการดึงทั้ง 3 คนกลับไปเซ็นสัญญาร่วมกันในนามวงอีกครั้ง แต่สมบัติยังทำเพลงทั้งหมดเหมือนเดิม จัดการเรื่องเงินเอง โดยจ่ายค่า perform เท่านั้นให้กับอีก 2 คน (ไม่รู้ค่ายจ่ายมาเท่าไหร)  ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการแบ่งจ่ายผลประโยชน์หรือค่าลิขสิทธิ์ออกไปส่วนๆโดยเฉพาะค่าแต่งเพลง(คำร้อง-ทำนอง) ที่บริษัทซื้อลิขสิทธิ์เพลงไปเลย จึงจ่ายให้กับผู้แต่ง(สมบัติ)โดยตรง (>รายละเอียดเรื่องลิขสิทธิ์เพลง) ส่วนค่าห้องอัดเสียงและอื่นๆทางค่ายจัดการให้ทั้งหมด หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับเงินใดๆกันอีกเลย จึงเหมือนเป็นการปิดฉากจบเรื่องผลประโยชน์เงินก้อนโตที่จะได้จากผลงานเพลงในนาม"ดอนผีบิน"ของ 3 พี่น้อง ต่างคนจึงต่างแยกกันไปหางานทำเพื่อเลี้ยงตัวเองและขับเคลื่อนชีวิตของใครของมันต่อไป..

การเดินทางทั้ง 6 ก้าว
ผลประโยชน์ของดอนผีบิน ตั้งแต่อัลบั้ม 1-4 เป็นช่วงที่ดอนผีบินได้รับผลประโยชน์มาแล้วใช้ไปแบบกองกลาง เงินที่ได้มาจากแต่ละชุดนำไปจ่ายหลักๆคือ ค่าห้องบันทึกเสียง ค่างานพิมพิ์ ค่าโฆษณา ค่าใช้จ่ายกองกลาง(ค่าเดินทาง กินอยู่ ก่อสร้างห้องซ้อม+อุปกรณ์ -ห้องพัก รถยนต์..) และค่าใช่จ่ายส่วนตัวแต่ละคน ไม่ได้แบ่งจ่ายตามหลักค่าย เนื่องจาก ชุด 1-3 เป็นการลงทุนทำกันเอง เงินที่เหลือจากค่าใช้จ่ายหลักจึงเป็นเงินเหลือเพียงหล่อเลี้ยงชีวิตกันต่อไปเท่านั้น....

>รายละเอียดผลประโยชน์วงยุค 2
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้