ดอนผีบินกับงานอนุรักษ์

บันทึกการเดินทางของ"ดอนผีบิน"ในส่วน-ภาพลักษณ์
ดอนผีบินกับงานอนุรักษ์

(หน้านี้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับวงดอนผีบิน และงานอนุรักษ์)
-ดอนผีบิน ไม่ได้เป็นวงดนตรีที่เกิดขึ้นเพื่องานอนุรักษ์ เพียงแต่ในช่วงหยุดเว้น 12 ปี ได้มีการโยงเอาชื่อวงไปใช้กับงานอนุรักษ์ มีการทำสินค้าชื่อวงจำหน่ายโดยอ้างเพื่องานอนุรักษ์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็สามารถทำได้ในนามส่วนตัว แต่ไม่ใช่ในนามวง
 
เมื่อย้อนไปตอนเริ่มต้นของ"ดอนผีบิน"
ทั้ง 3 คนไม่ได้มีอุดมการณ์อื่นใดในตอนนั้นนอกจากทำดนตรี Heavy Metal ! เพียงคิดจะทำเพลงให้เป็นของตนเอง แต่ละคนแสดงความมุ่งมั่นไปในสิ่งที่ชอบเหมือนกันคือ ดนตรีไทยแนวร็อค-เฮฟวี่เมทัล ตั้งใจอยากจะทำเพลงไทยในแนวนี้ให้เป็นผลงานของตัวเอง ต่างคนจึงต่างช่วยกันคิด ช่วยกันเขียน ช่วยกันทำในสิ่งที่แต่ละคนถนัดและตามกำลังความสามารถ ไม่ได้เกี่ยงว่าใครจะเก่งกว่าใคร เทียวไปมาหากันเพื่อรวมตัวกันทำเพลง จนมันสำเร็จออกไปได้ด้วยน้ำมือของทั้ง 3 คน ในส่วนเนื้อหาของเพลงก็จะเป็นเรื่องของชีวิตและสังคมหรือเรื่องอื่นใดที่เข้ากันกับแนวดนตรี...แต่ใครจะมีอุดมการณ์อื่นใดอยู่ในใจก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่วง


จุดแจ้งเกิดของ"ดอนผีบิน"
ดอนผีบิน มีชื่อเสียงในวงการใต้ดินแคบๆมาจากอัลบั้ม 1-4 ที่มีแนวดนตรีชัดเจน โดดเด่นในความหนักหน่วงของดนตรีทั้งร๊อค เฮฟวี่ แทรช ผสมปะปนกันไป ผสานกับเรื่องราวที่นำเสนอที่อยู่ในข่ายทิ่มแทง รุนแรง เสียดสี สังคม ตามแนวสไตล์ดนตรี..

อัลบั้มชุดที่ 1 งานเพลงกับปกอัลบั้มสุดโหดที่สื่อถึงที่มาของคำว่า"ดอนผีบิน" เรื่องราวของเพลงส่วนใหญ่เป็นเรื่องของสังคม ชีวิตคน ความฝัน ความตาย...ดนตรีผสมผสานกันหลายแนวปีอป ร๊อค เมทัล แฟนเพลงเห็นปกก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือ ปีศาจ !

อัลบั้มชุดที่ 2 งานเพลงที่หนักหน่วง มากับปกอัลบั้มที่มาแนวโหดญาติเดียวกับชุด 1 "ซาตานกำเนิด" เรื่องราวของเพลงก็ยังเป็นเรื่องของสังคม ชีวิตคน ความฝัน ความตาย...ดนตรีชัดเจนแนว Speed death Metal แต่ก็ไม่ได้เหมือนใครเพราะกีตาร์ไม่มี Riff ตามแบบฉบับของแนว Metal แฟนเพลงเห็นปกก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือ ปีศาจ ตัวที่ 2 !

ภาพของดอนผีบินเวลานั้น ไม่มีภาพอนุรักษ์แม้แต่น้อย มีแต่ความก้าวร้าวรุนแรงแบบ Rock Heavy Metal ซึ่งแฟนเพลงส่วนใหญ่ที่ชอบเพราะมีความสะใจในเนื้อหาคำร้องที่กระทบเสียดสีสังคมผ่านการ perform ทางดนตรีของทั้ง 3 คนในแนวดนตรีที่ดุดันแบบ Rock-Heavy-Metal และที่สำคัญคือร้องภาษาไทย

อัลบั้มชุดที่ 3 เป็นการเริ่มหักมุมที่ปกอัลบั้มที่สมบัติเป็นคนวาด เปลี่ยนไปจากโหดสัสไปเป็นภาพธรรมชาติ"ภูเขาน้ำตก" ที่หักมุมเกือบจะทำให้วงกลายเป็นวงร๊อคเพื่อชีวิตเพื่อธรรมชาติไป แต่โชคดีที่เนื้อหาเพลงยังคงพุ่งเป้าไปที่การแก่งแย่งชิงดีของคนในสังคม อันตรายของความเจริญ ความจัญไร ความบรรลัย ซากการทำลาย ความวอดวาย ความตาย ความอุบาทว์ของคนที่มีอุบาย แต่ก็เริ่มแฝงเรื่องการทำลายธรรมชาติเข้าไป.....ดนตรีถูกผสมผสานจากชุด 1-2 เป็นแนวที่ไม่เหมือนใคร จนเกิดความเป็นแนว"ดอนผีบิน"ขึ้น



อัลบั้มชุดที่ 4 ปกอัลบั้มเป็นเรื่อง"เทคโนโลยี่ครอบครอง" เนื้อหาเพลงยังพุ่งเป้าไปความอยู่รอดของคนในยุคเทคโนโลยี 2 ฝั่ง ความเจริญ ทางรอดชะตากรรมวาระสุดท้ายของคน ความตาย...

ทั้ง 4 ก้าวที่สร้างชื่อเสียงให้กับดอนผีบิน เพราะมีความเป็นชัดเจนและลงตัวในแนว Rock Heavy Metal เรื่องราวเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยและเข้ากันได้กับดนตรีในแนวนี้ แต่ในอัลบั้ม 4 ก็มีเพลงบรรเลงหลุดกรอบหลุดแนวแบบเบาหวิวชวนให้สงสัยจากสื่อมวลชนและแฟนเพลงว่า วงแนวนี้ทำเพลงแบบนี้ได้ด้วยหรือ? เหมือนเป็นเหรียญสองหน้า จริงๆมันเป็นงานเพลงที่ดี แต่ว่าอยู่ผิดที่ ผิดเวลา ที่สมบัติพยายามจะสอดแทรกเข้าไปในอัลบั้ม แทนที่จะแยกทำออกมาต่างหากให้เป็นงานเดี่ยวส่วนตัวที่แตกต่างจากแนวของวงและแสดงเจตจำนงของตัวเองให้ชัดเจน ซึ่งเริ่มทำให้เกิดการไม่เข้ากันของแนวเพลงในอัลบั้มตั้งแต่นั้นมาและเกิดการคุยกันมากขึ้นเรื่อง Producer และทิศทางของงานเพลงจนวงต้องแยกพักจากกันไป

อัลบั้มชุดที่ 5-6
หลังจากที่คุยกันถึงทิศทางเพลง อัลบั้มชุดที่ 5-6 จึงกลายเป็นไม่ใช่งานกลุ่มจากรูปแบบการทำงาน ถือเป็นงานเดี่ยวที่สมบัติต้องการทำเองโดยไม่อยากให้ใครมายุ่งทั้งเรื่องงานและเงินเหมือนอัลบั้มที่ผ่านๆมา แม้ก้าวที่ 6 จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับวงกับค่ายใหญ่ แต่ก็ยังคงทำตามที่ตัวเองต้องการอยู่ โดยดึงเอาน้องๆเข้าไปทำงานร่วมเพื่อจะใช้ชื่อของ"ดอนผีบิน"เท่านั้น

การเขียนเพลง-การหยิบเอามุมมองด้านไหนมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เป็นสุนทรียภาพที่เกิดขึ้นในแต่ละคน เป็นการนำเรื่องราวเสนอผ่านบทเพลงที่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ต้องไปทำหรือที่ทำอยู่ แต่เป็นการคิด ที่เกิดจากความสะเทือนใจที่ได้เห็น ได้รับข้อมูล จินตนาการผ่านภาษา ผ่านเส้นเสียงไปสู่คนฟัง ที่ฟังแล้วอาจจะได้แง่คิดผสมผ่านความบรรเทิงของแนวดนตรีที่ชอบ เพลงของ"ดอนผีบิน"เป็นเพลงแนวร็อคเฮฟวี่ที่ใช้ภาษาหนักจัดจ้านเพื่อให้เข้ากับความหนักของแนวดนตรี มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่เราก็ไม่ได้ทำเพลงไปเพื่ออุดมการณ์อันใด เป็นเพียงเรื่องราวที่นำมาเสนอออกไปเป็นชุดๆเท่านั้น ไม่งั้นก็จะต้องไปเป็นนักอนุรักษ์ แทนที่จะเป็นนักดนตรี


สมบัติกับงานอนุรักษ์
-สมบัติได้ตั้งฉายาตัวเองว่า"คนภูไพร"ตั้งแต่งานชุดที่ 5 ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นชื่อที่เข้ากันกับงานอนุรักษ์ได้ดี จะสามารถร่วมงานและทำกิจกรรมเป็นวงกว้างได้ดีกับหน่วยงานองค์กรต่างๆทั่วประเทศที่ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว สามารถประสานงานกันเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันได้ และสามารถผลิตสินค้าต่างๆในชื่อ"คนภูไพร" เพื่องานอนุรักษ์ได้โดยตรง และน่าจะขายได้มากกว่ากับคนทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะกับแฟนเพลง"ดอนผีบิน" เท่านั้น

-การเป็นคนมีจิตอาสานับว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมจากสังคม ซึ่งก็มาจากพื้นฐานความชอบส่วนตัวของแต่ละคน เมื่อได้ทำงานที่เข้ากับความชอบส่วนตัวก็ถือว่าเป็นเส้นทางชีวิตที่ลงตัวและได้ทำประโยชน์แก่สังคมด้วย คนที่มีจิตอาสาแบบเดียวกันก็สามารถไปร่วมสนับสนุนได้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องใช้ชื่อ"ดอนผีบิน"เลย

-การนำชื่อวงดนตรีในแนว Heavy Metal ที่มีชื่อผีห่าซาตาน ที่ตั้งขึ้นตามแนวทางเพลงหนักๆแบบ"ดอนผีบิน" และมีชื่อเสียงมากับความเป็นวงเฮฟวี่ร็อคมาก่อนหน้านั้น นำไปโยงกับงานอนุรักษ์ในช่วงหลัง ดูมันก็ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ อีกอย่างชื่อ"ดอนผีบิน"จะดึงความสนใจจากคนทั่วไปให้เข้าไปร่วมสนับสนุนงานอนุรักษ์ได้อย่างไร (ยกเว้นกลุ่มแฟนเพลงดอนผีบินที่มีจิตอาสาเท่านั้น) การใช้โลโก้สำแดงความเป็น Heavy Death Metal เพื่อนำคนไปสู่งานอนุรักษ์อาจจะเป็นการใช้ผิดงาน ยิ่งกับเด็กๆที่จะปลูกจิตสำนึกเรื่องสิ่งแวดล้อมโลกยิ่งไม่เข้ากันไปใหญ่ เพราะเด็กมันไม่รู้หรอกว่าเสื้อที่มันใส่อยู่กันมันคือ ผีห่าซาตานจากนรก ! ไม่ใช่งานอนุรักษ์ 

-เมื่อมาดูสมาชิกวงอีก 2 คน ก็ไม่ได้มีวิถีชีวิตแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ ดังนั้นหากจะบอกว่า"ดอนผีบิน"คือวงดนตรีอนุรักษ์ ก็ไม่ใช่ เพราะอีก 2 คนไม่ได้ทำ หากใครจะว่าอีก 2 คนไม่ใช่"ดอนผีบิน"ก็ไม่ได้เพราะเริ่มต้นสร้างผลงานด้วยกันมา ดอนผีบินคือ 3 คน เพียงแต่ หลังจากวงมีชื่อเสียงแล้ว ได้มีการเอาชื่อวงไปโยงเข้ากับงานส่วนตัว จึงอยากจะให้แยกแยะออกจากกัน ระหว่าง"วง"กับ"งานส่วนตัว" ดังนั้น "ดอนผีบิน" ไม่ใช่วงดนตรีเพื่องานอนุรักษ์ ! 

บันทึก/ความเห็นส่วนบุคล doomed day 2556
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้