ประวัติวงหลังจากแยกทาง !

บันทึกการเดินทางของสมาชิก"ดอนผีบิน"ในส่วน-หลังแยกวง
หลังจากที่ทั้ง 3 คนหันหลังให้แก่กัน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการกลับมาทำงานร่วมกันในรอบ 2...   
...ในช่วงที่หยุดกันไป 12 ปี หลังจากออกอัลบั้มชุดที่ 6 (ปี 2543)...ทำให้ชีวิตของแต่ละคนไม่สามารถยึดวงเป็นอาชีพได้อีกต่อไป ต้องระหกระเหินไปทำมาหากินแล้วแต่ใครจะไปเกาะไขว่คว้าหามาเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป ...การกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งจึงเป็นการทำงานระดับผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่วัยมันส์เหมือนสมัยก่อน !! เมื่อเดินหน้าต่อไปไม่ได้ในรอบ 2 สมศักดิ์จึงได้ประกาศหยุดร่วมทำงานแบบชัดเจนตรงๆ ไม่ให้คลุมเครือแบที่ผ่านๆมา จนทำให้เกิดการโจมตีกันไป-มาระยะหนึ่ง
..
2559-2560-2561
ตุลาคม 2559-กันยายน 2560
ในช่วงระหว่างที่แม่ของทั้ง 3 ได้ป่วยหนักในช่วงกลางปี 59 ที่ทั้ง 3 จะต้องเผชิญหน้ากันอยู่แต่ไม่ค่อยได้พูดกัน หน้าที่แต่ละคนมุ่งไปที่การดูแลแม่ให้ดีที่สุด สมคิดเดินทางไปมา ชัยภูมิ-น่าน  สมศักดิ์ เดินทางไปมา เชียงใหม่-น่าน จนก้าวเข้าสู่ระดับการเข้าเวรประจำการเฝ้า สมคิดต้องลาออกจากงานเพื่อไปเฝ้าดูแลแม่จริงจังเป็นเวลากว่า 4 เดือน จนแม่ผู้ให้กำเนิดได้จากทั้ง 3 คนไปเมื่อ ก.ย.60...ท่ามกลางความแตกร้าวลึกๆของทั้ง 3 คน ...ก่อนแม่เสียชีวิต แม่ได้แบ่งที่ดินที่บ้านให้กับสมบัติและสมคิดคนละครึ่ง (สมศักดิ์สละสิทธิ์) สมบัติเลือกเอาส่วนตึกห้องซ้อมเก่าของดอนผีบิน(สร้างจากเงินกองกลาง)ซึ่งสมบัตินำไปใช้เป็นที่ทำการศูนย์ภูสันฯ ส่วนที่เหลืออีกครึ่งเป็นตัวบ้านให้สมคิด......

ตุลาคม 2560-กรกฎาคม 2561
หลังจากแม่เสียชีวิตเมื่อ ก.ย.60 การแบ่งที่ดินระหว่างสมับัติ-สมคิดเป็นไปอย่างยืดเยื้อ กดดันให้สมคิดซึ่งได้ลาออกจากงานเคว้งคว้างไม่มีรายได้อยู่แล้ว ต้องอดทนกัดฟันอยู่สู้กับการทำธุรกรรมแบ่งที่ดินเพียงแค่ 1 งานให้แล้วเสร็จ กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป 10 เดือน ...ซึ่งระหว่างนั้น สมบัติได้ย้ายออกจากที่บ้านไปเช่าตึกแถวอยู่ที่หน้าตลาดสด อ.ท่าวังผา หลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสมคิด.....ก.ค.61 หลังจากเสร็จสิ้นธุรกรรม สมคิดก็เดินทางออกจากที่บ้านทันที มุ่งหน้าอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ อิสาน หางานใหม่ทำเลี้ยงชีพต่อไป...
ส่วนสมศักดิ์ ยังคงมุ่งหน้ารำลึก 25 ปี ย้อนวันเวลากลับไปกับการรำลึกถึงอัลบั้ม"เส้นทางสายมรณะ"

มกราคม 2561
สมศักดิ์ ประกาศให้การตามหาผลงานเพลงของดอนผีบินในยุคเก่าทั้งหมดสิ้นสุดลง โดยรวมงานทั้งหมด 12 ชุดลงแผ่น MP3 ให้แฟนเพลงที่ตามหาได้รับฟังเท่าเทียมกัน เป็นการปิดฉากเพลงยุค 1 ที่ผ่านเวลามานานแล้ว พร้อมทั้งทำของที่ระลึก 25 ปี ที่ไม่เคยทำออกมาก่อนเช่น หมวกแก็ป แก้วกาแฟ Wristband... เพื่อเติมเต็มความรู้สึกของแฟนเพลงในยุคเก่า... ในเดือน เม.ย.61 ก็ได้จัดทำเสื้อรำลึก 25 ปี อัลบั้ม โลกมืด และได้ใส่เดินทางไปรำลึกที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ในวันตรงกับวันวางเทปอัลบั้ม"โลกมืด" ที่หน้างานคอนเสิร์ท Metallica (15 เม.ย.36)

สมบัติ ประกาศว่าสินค้าของแท้จากจิตวิญญาณมีที่น่านที่เดียว ระวังของก๊อปปี้ ดัดแปลง เลียนแบบ สินค้าดอนผีบินเพื่อสิ่งแวดล้อมโลก
มิ.ย.61 ก็มีแฟนเพลงคนหนึ่งได้ไปพบสมบัติและกลับมาโพสวิจารณ์ค่อนข้างรุนแรง โดยหาว่า สินค้าที่สมศักดิ์ทำ อ้างรำลึกเพื่อทำสินค้าขาย หากินบุญเก่า ปั้นสินค้าย้อมแมวขาย เป็นสินค้าปลอม มีดอนผีบินของแท้ของเทียม ที่สำคัญสมบัติ ส่ง link ไปให้แฟนเพลงหลายๆคนได้อ่าน.....สมศักดิ์ ตอบโต้ทันทีว่า สมบัติทำขายกินเองมาตลอดตั้งแต่ปี 2538 สินค้าที่ทำมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมทุกประการ ไม่มีของแท้ของปลอม

สิงหาคม 2561
สมคิดได้กลับไปดูบ้านอีกรอบเพื่อจัดการเรื่อง การดูแลบ้านและขนของบางส่วน ในช่วงนั้นพายุเข้าพอดี ได้เกิดน้ำเอ่อไหลบ่าเข้าท่วมบ้านดอนตัน 2 วัน แต่โชคดีที่ระดับน้ำขึ้นไม่ถึงตัวบ้านและได้ลดระดับลงใน 1 วัน ที่บ้านก็เลยไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด รวมทั้งที่ตึกศูนย์อนุรักษ์ของสมบัติที่ทิ้งร้างไว้ก็ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ 
ในภาพมุมสูงถ่ายบริเวณทุ่งนาที่แม่แบ่งให้ลูกๆ ซึ่งสมบัติได้นำไปทำ"อนุสรณ์สถานทุ่งดอนผีบิน" ได้ปลูกต้นกล้วยทิ้งไว้ น้ำก็เกือบถึงแต่ลดระดับลงในวันเดียวกัน จึงไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด....

บน-ทุ่งนาดอน อนุสรณ์สถานทุ่งดอนผีบิน
ล่าง-บริเวณที่บ้านที่สมคิดถ่ายไว้จุดขึ้นสูงสุดก่อนน้ำจะลดระดับลง


กันยายน-ธันวาคม 61
สมศักดิ์ ได้รำลึก 25 ปีล่วงหน้าไปจนถึงอัลบั้มชุดที่ 3 อุบาทว์-อุบัติ โดยได้ทำเสื้อซีรีย์"อุบาทว์-อุบัติ" ขึ้น ให้แฟนเพลงที่สนใจได้จับจองกัน และประกาศทิ้งท้ายปี 2561 กับเสื้อ Jacket และ Hoodie ต้อนรับหน้าหนาวสำหรับแฟนเพลงที่สนใจได้จับจองไว้

2562
มกราคม-มิถุนายน 62
สมศักดิ์ ได้รำลึก 25 ปี ไปเรื่อยๆจนถึงอัลบั้มชุดที่ 4 ได้เขียนเล่าย้อนถึงการทำงานแบบเข้าสังกัด ไปจนถึงการเล่นคอนเสิร์ทร่วมกันครั้งแรกของวง รวมถึงการทำเสื้อยืดที่ระลึก "สองฟากฝั่ง" สำหรับแฟนเพลงได้เก็บกันไว้

2563
ช่วงต้นปี..ที่โควิดกำลังคืบคลานเข้าสู่ประเทศไทย แมสได้กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีไว้เพื่อป้องกันตัวเอง สมศักดิ์ จึงได้ทำแมส"ดอนผีบิน"ออกมาจำหน่ายให้กับแฟนเพลงที่ต้องการ จำนวน 4 รุ่น  พร้อมทั้งเขียนเรื่องราวรำลึกถึงช่วงอัลบั้ม 4 "สองฟากฝั่ง" การเล่นคอนเสิร์ทครั้งแรกของวง นอกจากนั้นสมศักดิ์ ยังได้ผลิตแก้วกาแฟรุ่น 3 Limited Edition สีแดง ออกมาให้แฟนเพลงได้จับจองเป็นเจ้าของ

สมคิด อยู่ที่ตะวันแดง ชัยภูมิ ก็ได้ทำเพลง+ทำวิดีโอออกมา ในชื่อของตัวเอง คิด/ดอนผีบิน เป็นเพลงเกี่ยวกับต้อนรับปีใหม่ 2563
 
Warner Music ได้ทำซีดีอัลบั้ม"สองฟากฝั่ง"ออกจำหน่ายอีกรอบ รวมทั้งได้นำเพลงขึ้น steaming online อย่างเต็มรูปแบบ

ปลายปี 2563
สมศักดิ์ ได้ผลิตหมวกแก๊ปรุ่น 3 ให้แฟนเพลงได้เป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นแบบครึ่งหลังตาข่าย ปักโลโก้สีเขียว ออกจำหน่ายในช่วงปลายปี พร้อมทั้งได้ทำเสื้อที่ระลึกอัลบั้ม 5 "สัญญาณเยือน" แบบ Limited Edition ให้แฟนเพลงได้เป็นเจ้าของกัน  ทิ้งท้ายปีด้วยพวงกุญแจเหรียญโลหะรมดำรุ่น 2 ออกมาให้แฟนเพลงได้เลือกซื้อหาไปใช้กัน
ส่วนสมบัติ ก็ยังทำเสื้อรุ่นต่างๆออกมาขายอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นไปที่งานศิลปะ Custom made แบบวาดภาพเกี่ยวกับดอนผีบินลงเสื้อตัวต่อตัว ให้แฟนเพลงได้เป็นเจ้าของกัน รวมทั้งทำภาพปกอัลบั้มเก่าๆ ทำโลโก้ออกไปในแนวหลากหลายมากขึ้น 

2564
การเคลื่อนไหวในชื่อ ดอนผีบิน มีอยู่ 2 ที่ คือ ที่สมบัติ และ สมศักดิ์ (สมคิดไม่ได้นำเสนออะไร) 
สมบัติ> ได้ใช้ชื่อ face book ส่วนตัว  Sombat Kaewtid Donpheebin และเพจ Donpheebin ในการนำเสนอ"ดอนผีบิน"ในแนวดนตรีเพื่อสิ่งแวดล้อมโลก ดนตรีจากป่า เน้นไปสายธรรมชาติ ศิลปะ รวมทั้งย้อนเรื่องราวเก่าๆเรื่อง logo วง ภาพปกในแนวต่างๆ  และยังเปิดเวบไซท์ donpheebin.com ควบคู่กันไป โดยมีการทำเสื้อยืด ดอนผีบิน ขายในแนวต่างๆอย่างต่อเนื่อง และยังใช้คำว่า ของแท้จากจิตวิญญาณ มีที่เดียว

สมศักดิ์> ใช้เพจ ดอนผีบิน 25 years เป็นหลักในการย้อนรำลึกเรื่องราวๆเก่าๆ + ทำเสื้อและของที่ระลึก 25 ปีอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีเสื้อรุ่น 37-40 ให้แฟนเพลงได้เลือกซื้อหากัน รวมทั้งงานแผ่นเสียงอัลบั้ม 1-2 ในช่วงสิ้นปี สำหรับชาวแผ่นเสียง

จนถึงสิ้นปี 2564 จะเห็นได้ว่าชื่อ ดอนผีบิน ยังถูกพูดถึงอยู่ตลอด สมศักดิ์ ประกาศชัดว่ารำลึก 25 ปี จึงพูดถึงเรื่องราวเก่าๆล้วน ส่วนสมบัติเองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องงานเพลงใหม่เลย ก็ยังพูดถึงเรื่องเก่าๆ โดยเฉพาะการประกาศว่า ตัวเองเป็นคนเขียนเพลง ออกแบบ logo วาดภาพปก  อย่างไม่ลดละ โดยลืมงานสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆไปอย่างสิ้นเชิง ยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องเก่าๆเมื่อ 30 ปีก่อน !