สมบัติ แก้วทิตย์/กีตาร์-ร้อง


สมบัติ แก้วทิตย์/Guitar-Vocal 
พี่ชายคนโต/กีตาร์ จบการศึกษามัธยมต้นจากโรงเรียนศรีสวัสวิทยาคาร-น่าน เรียนต่อที่วิทยาลัยครูอุตรดิตถ์ หลังจบได้สอบเข้ารับราชการครูที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ระหว่างที่รับราชการได้ลาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว.บางแสน) และได้ลาออกจากราชการครู หลังจากออกอัลบั้มชุดที่ 2 ของ ดอนผีบิน

ที่อยู่ปัจจุบัน : อ.ท่าวังผา จ.น่าน
อาชีพปัจจุบัน : อิสระ 

ชีวิตส่วนตัวชอบงานในสายศิลปะ ชอบวาดรูป ชอบธรรมชาติป่าเขา เมื่อเรียนจบแล้วได้สอบรับราชการครู ได้รับบรรจุเป็นครูสอนในโรงเรียนชนบทที่ อ.ท่าวังผา ภายหลังได้ขอย้ายตัวเองขึ้นไปเป็นครูสอนโรงเรียนบนดอยที่สูง ที่บ้านสันเจริญ หมู่ 6 ตำบลผาทอง อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนเผ่าเมี่ยน(เย้า) เดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งปลูกฝิ่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ช่วงนั้นได้มีโครงการปลูกกาแฟทดแทนการปลูกฝิ่นและมีโครงการลดการแผ้วถางป่า-อนุรักษ์ผืนป่าของทางการอยู่แล้ว ซึ่งเดี๋ยวนี้ตรงนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งหนึ่งของ จ.น่าน มีจุดเที่ยวเช่น น้ำออกรู น้ำตกภูสัน ป่าต้นต๋าว สวนยาหลวง...>more


บทบาทการทำงานกับวงดอนผีบิน
-สมบัติเป็นพี่ชายคนโต งานดนตรีของดอนผีบินส่วนใหญ่สมบัติจึงเป็นคนนำในเรื่องต่างๆเช่น เขียนคำร้องเพลงเกือบทั้งหมด(ชุดที่ 4 มีสมศักดิ์เขียน 2 เพลง) จึงเป็นคนวาง Concept เรื่องราวของงานแต่ละชุดไปด้วย 
-สมบัติมีความสามารถในการเขียนเนื้อเพลงที่เป็นกวี มีการใช้คำที่แปลก เล่นผวนคำ ผสมคำ เน้นไปที่คำ-วลี ทำให้ต้องตีความในการสื่อความหมายโดยรวมในตัวเพลง ไม่ชัดเจนว่าพูดถึงเรื่องอะไร(งานดอนผีบิน 2536-2543) ช่วงหลังๆ สมบัติเขียนเพลงน้อยลงมาก โดยช่วงที่เว้นออกงานของดอนผีบินไปกว่า 12 ปี(2543-2556) แล้วกลับมาทำงานใหม่ Utopia I ในปี 2556 มีเพลงร้องเพียง 4 เพลงจาก 17 แทรค(2 ซีดี) ซึ่ง 3 เพลงเป็นเพลงเก่าที่ทำตั้งแต่ปี 2550 และอีก 1 เพลงมาจากจากเดโมก่อนออกอัลบั้ม 1 "โลกมืด" ตั้งแต่ปี 2532 ด้วยซ้ำไป และในงาน Utopia II ก็มีเพลงร้องจริงๆเพียง 1 เพลงเท่านั้น..
-จากที่ได้ไปร่ำเรียนมาทางศิลปะโดยตรง จึงเป็นคนทำงานอาร์ทของวงเช่น ออกแบบโลโก้ของวงและวาดภาพนำไปเป็นปกอัลบั้มตั้งแต่ชุดที่ 1 เป็นต้นมา และมีภาพถ่าย+กราฟิคคอมพิวเตอร์เข้ามาผสมในช่วงหลังๆ

-สมบัติ ใช้กีตาร์เป็นอุปกรณ์หลักในการแต่งเพลง มีแนวการเล่นกีตาร์ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ลีลากีตาร์ในงานดอนผีบินจึงไม่ค่อยเหมือนใคร เพราะไม่มี Riff ตามแบบแนวเพลงร๊อคเมทัล แต่เน้นครวญครางเป็นส่วนใหญ่ 

Return to the Nature
ด้วยความชอบธรรมชาติ สมบัติจึงใช้คำว่า "Nature"บ่อยๆ และทำเพลงบรรเลงกีตาร์แนวธรรมชาติๆแทรกเข้าไปในทุกอัลบั้ม จนเพลงบรรเลงแนว Return to the Nature ได้รับรางวัลสีสันอวอร์ดส์ติดๆกันไปถึง 2 ครั้ง(2540-2541) และในปี 2556 ยังได้ทำอัลบั้มบรรเลงกีตาร์ล้วนๆในแนวนี้ออกมาอีก 1 ชุดชื่อ "Return to the Nature 30 ปี" และทั้งยังตั้งชื่อคอนเสิรท์ว่า "Return to the Nature" และ สู่น้ำฟ้า ป่า ดินดาว. ในคอนเสิร์ทครั้งสุดท้ายอีก


คนภูไพร
สมบัติ เริ่มตั้งฉายาของตัวเองว่า"คนภูไพร" ตั้งแต่งานในชื่อ"ดอนผีบิน"ชุดที่ 5 "สัญญาณเยือน" (2541) และเพิ่มชื่ออื่นๆเข้าไปในงานชุดที่ 6 เช่น ลำนำลำเนา ดาราจักร ไผ่ริมธาร ลำเนาไพร หรือ Puja....แต่ปัจจุบันใช้"คนภูไพร"เป็นหลัก
-สมบัติ มีชื่อเสียงในด้านงานอนุรักษ์ค่อนข้างโดดเด่นกว่าด้านดนตรีในช่วงหยุดออกงานเพลงในชื่อ"ดอนผีบิน"ไป 12 ปี(2543-2556) จากการยื่นผลงานเข้าประกวดไปที่คณะกรรมการตัดสินรางวัลลูกโลกสีเขียว ของปตท. จนได้รับรางวัลประเภทบุคคล (1 ใน 9 คน) ครั้งที่ 7 ปี 48 ได้รับเงินรางวัลร่วมแสนบาท (*รางวัลรูปโลกสีเขียวมีทั้งหมดมี 7 ประเภททั้งหมด 41 รางวัล มูลค่า 3 ล้านกว่าบาท ซึ่งมุ่งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิดวิถีพอเพียง แบ่งปัน ผูกพัน คน-น้ำ-ป่า โดยรูปแบบ-ต้องเขียนผลงานส่งเข้าประกวด แต่รางวัลนี้ก็ถูกมองว่าเป็นการสร้างภาพของ ปตท.)
-หลังจากได้รับรางวัล ก็มีรายการทีวีตามไปสัมภาษณ์หลายครั้ง หลายรายการ จนทำให้มีชื่อเสียงในด้านงานอนุรักษ์มากขึ้นเรื่อยๆ
-ได้รับเลือกจากนิตยสาร สารคดี ให้เป็น 1 ใน 30 คน ในฐานะผู้จุดประกายสีเขียว ปี 58
-ได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารับปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสิ่งแวดล้อมศึกษา จากสถาบันเดิมที่จบมา(วิทยาลัยครูอุตรดิตถ์)

by doomed day 2561

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้